ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แม้จะเปิดบ้านกระหน่ำบอร์กไดซ์ 3-0 เกมลีกวันอาทิตย์ แต่ว่าบรรยากาศในสนามกลับอึมครึม แฟนบอลโห่ใส่ผู้เล่นของตัวเองตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูเปอร์สตาร์ ลิโอเนล เมสซี่ รวมทั้ง เนย์มาร์

เปแอสเช เพิ่งอกหักตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แบบน่าผิดหวังให้กับเรอัล มาดริด เมื่อกลางอาทิตย์ล่าสุด และดูเหมือนกับว่า เมสซี่ กับ เนย์มาร์ จะตกเป็นเป้าหมายถูกโห่ไล่จากแฟนบอลของตัวเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนสตาร์ทีมชาติบราซิล ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 2-0 หลังสนามประกาศชื่อของเขา แฟนบอลเลือกที่จะโห่ใส่มากกว่าจะสรรเสริญ

ผิดกับ คีเลี่ยน เอ็มบาปเป้ คนยิงประตูแรก ที่ยังเป็นขวัญใจได้จากแฟนบอลเหมือนเช่นเดิม

นอกจากนี้ ในโซเซียลมีเดียยังเปิดเผยคลิปวิดีโอสั้นๆถึงตอนประกาศชื่อก่อนเกมจะเริ่ม เมื่อชื่อของเอ็มบาปเป้ แฟนบอลยังส่งเสียงให้กำลังใจตามปกติ แต่ว่าพอเป็นชื่อ เมสซี่ กลับ เนย์มาร์ กลับกลายเป็นเสียงโห่ไล่

ส่วนสาเหตุที่แฟนบอลเปแอสเชไม่พอใจ มาจากผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานของทั้งคู่ในฤดูกาลนี้ โดย เมสซี่ ทำไป 7 ประตู 11 แอสซิสต์ ขณะที่เนย์มาร์ ยิง 5 จ่าย 5

คนละเรื่องกับ เอ็มบาปเป้ ที่เป็นเดอะแบกประจำทีม ยิงไปแล้ว 26 ประตู 17 แอสซิสต์ ในทุกรายการ

โธมัส ทูเคิล กุนซือเชลซี ยืนกราน ตนเองยังมีความสุขกับงานคุมสิงห์บลูส์ ไม่ได้กังวลใจกับเหตุการณ์ที่สโมสรกำลังประสบอยู่ในขณะนี้

จากประกาศของทางรัฐบาลที่คว่ำบาตร โรมัน อับราโมวิช ได้ส่งผลกระทบต่อเชลซี ถูกสั่งห้ามขายบัตรเข้าชมเกมการแข่งขันและจำเป็นต้องปิดร้านของสโมสร ห้ามซื้อขายนักเตะ และจำกัดค่าใช้จ่ายการเป็นทีมเยือนไว้ที่ 20,000 ปอนด์

“ที่จริง ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองเป็นกังวลหรือเปล่า แต่เข้าใจกันอยู่ถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น มันมีการเปลี่ยนแปลงได้เกือบทุกวัน” ทูเคิล กล่าวก่อนเกมพบนอริช ซิตี้ ในวันพฤหัสบดี

“มันมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากเมื่อวานเป็นวันนี้ ในช่วงเวลานี้ดูเหมือนว่า ในมุมของฟุตบอลมันใกล้ที่จะจำเป็นต้องได้รับการปกป้องแล้ว”

“ผมยังมีความสุขตรงนี้ ยังมีความแฮปปี้สำหรับการเป็นกุนซือให้ทีมที่แข็งแกร่ง” ทูเคิล เสริม

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มามีส่วนร่วมในทีม ได้มาเป็นโค้ช และทำงานฟุตบอลที่ผมรัก”

คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่ของ เรอัล มาดริด แฮปปี้กับการคัมแบ็คเอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3-2 รวมทั้งยกให้เป็นค่ำคืนสุดอเมซิ่งของทีม

กองทัพ “ราชันชุดขาว” ของผู้จัดการทีมชาวอิตาเลี่ยน เพิ่งสร้างปาฏิหาริย์ใช้เวลาแค่ 30 นาที พลิกจากที่โดนตามหลังด้วยสกอร์รวม 2-0 มาเป็นฝ่ายชนะ “PSG” ในเกม 3-1 จากแฮตทริกของ คาริม เบนเซม่า

ทำให้พวกเขาได้ผ่านเข้ารอบถึง 8 ทีมสุดท้ายของศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยสกอร์ 3-2 อย่างสมศักดิ์ศรีแชมป์ถึง 13 สมัย

“มันคือค่ำคืนสุดอัศจรรย์เนื่องจากว่าเราเอาชนะในเกมที่ยากลำบากได้ ซึ่งมันยิ่งยากกว่าเดิมหลังจากที่โดนขึ้นนำไปก่อน” อันเชล็อตติ กล่าวกับ Sky Sport Italia หลังจบเกม

“เรามีปัญหาในเรื่องการแย่งบอลกลับมาแต่หลังจากเล่นเพลสสูงที่พวกเราทดลองกันมาในการฝึกฝน พวกเราก็มาได้ประตูที่เปลี่ยนเกมไปเลย”

“แฟนบอลในสนามเริ่มช่วยซัพพอร์ตทีม เราสร้างช่องทางได้มากขึ้นเรื่อยๆมันเป็นค่ำคืนที่พิเศษและเราก็แฮปปี้กันมากจริงๆ”

“หลังจากประตูนั้นบรรยากาศในสนามก็เปลี่ยนไปเลยและซึ่งมันคือสิ่งสำคัญ ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายมันพิเศษมาก เพราะถ้าเกิดไม่เป็นเช่นนั้นเราก็คงจะไม่อาจจะเอาชนะ เปแอสเช ได้”

พรีเมียร์ลีกยืนยันหยุดการถ่ายทอดสดในรัสเซียแล้ว หลังสโมสรเห็นพ้องอย่างเป็นเอกฉันท์ พร้อมบริจาคเงิน 1 ล้านปอนด์เพื่อช่วยเหลือผู้คนในยูเครน

การตัดสินใจระงับข้อตกลงกับบริษัท Rambler(Okko Sport) ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในรัสเซียนั้นเกิดขึ้นหลังจากการประชุมสโมสรในวันนี้ (วันอังคาร)

การยกเลิกถ่ายทอดสดถือเป็นเรื่องที่คาดคะเนเอาไว้ตั้งแต่ในช่วงเวลาที่ ริชาร์ด มาสเตอร์ส ซีอีโอของพรีเมียร์ลีกเปิดเผยในสัปดาห์ก่อนว่ากำลังพิจารณา

แถลงการณ์จากลีกระบุว่า “ลีกขอประณามรัสเซียกับการบุกรุกยูเครน พวกเราขอเรียกร้องให้สงบสุขและขอแสดงความห่วงใยต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ”

“เงิน 1 ล้านปอนด์จะถูกบริจาคให้กับหน่วยงานความช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อภัยพิบัติ และส่งมอบสิ่งของช่วยเหลืออันจำเป็นต่อมนุษย์ให้กับผู้ที่ต้องการ”

การลงสนามพรีเมียร์ลีกเกมหลังๆทุกสโมสรก็แสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับยูเครน อาทิเช่นการให้กัปตันทีมใส่ปลอกแขนธงชาติยูเครน รวมทั้งการขึ้นธงชาติและข้อความว่า “Football Stands Together” บนหน้าจอบิลบอร์ดในสนามก่อนเกมคิกออฟ

เอฟเอเองก็หยุดการถ่ายทอดสดเอฟเอ คัพในรัสเซียด้วยเหมือนกัน โดยรอบก่อนรองชนะเลิศมีคิวลงสนามในวันที่ 19 และ 20 มีนาคม

เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลนอร์มอล วันของหงส์แดง เปิดเผยว่า โรแบร์โต้ เฟอมิโน่, ธิอาโก้ อัลคันทาร่า และโจเอล มาติป กลับมาลงในสนามฝึกซ้อมหมดแล้ว ก่อนเจอ อินเตอร์ มิลาน ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม นัด 2 วันอังคารนี้

ทั้งสามคนไม่ได้ลงสนามในเกมนัดล่าสุดโดย เฟอมิโน่ บาดเจ็บกล้ามเนื้อไปนานหลายสัปดาห์แล้ว ขณะที่ ธิอาโก้ เจ็บก่อนเกมชิงคาราบาว คัพ เมื่อสัปดาห์ก่อน และมาติป มีอาการเจ็บป่วย

คล็อปป์ กล่าวว่า “ผมคิดว่าทุกคนลงซ้อมได้เมื่อวานนี้ (วันอาทิตย์)”

“ธิอาโก้ เพิ่งเจ็บไปสัปดาห์เดียว ก็อาจจะไม่เป็นอะไร แต่ก็จำเป็นต้องรอ ส่วนโจเอล หายหน้าไป 3-4 วัน ดังนั้นจะไม่เป็นอะไร”

“ส่วนบ็อบบี้ หายไปเป็นเวลานานกว่านั้น นี่เป็นการฝึกซ้อมหนแรกของเขา ดังนั้นเราจะต้องดูว่าเราจะต้องเน้น หรือว่าจะให้เขาฝึกซ้อมเบาๆไปอีกสัก 2-3 วัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้”

“เราไม่ได้ซ้อมหนักอะไรในวันนี้ เป็นเซสชั่นย่อยๆและบ็อบบี้เองก็น่าจะต้องการบางอย่างก่อน ดังนั้นเราจะต้องมาคอยดูกัน แต่พวกเขาลงซ้อมกันหมดทุกคนแล้ว”

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่า ลิเวอร์พูล เป็นคู่แข่งที่หินที่สุดตลอดเส้นทางอาชีพผู้จัดการทีมของเขา

“เรือใบฟ้า” ของผู้จัดการทีมชาวสแปนิช ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มเก่งเปิดบ้านคว่ำอริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 4-1 ทำให้พวกเขาทิ้งห่าง “ลิเวอร์พูล” ไป 6 แต้ม แต่ต้องยังแข่งมากกว่า 1 นัด ในขณะที่พวกเขายังจะมีเกมที่ได้โคจรมาเจอกันเองในเดือนหน้า

“ผมบอกมาหลายทีแล้วว่าการบรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฐานะผู้จัดการทีมฟุตบอลคือเป็นการได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 3 ครั้งจาก 4 ปีหลังสุด และเรายังคงเดินหน้าต่อไปและยังมีโอกาสจะคว้ามันอีกครั้ง” เป๊ป กล่าวกับ Sky Sports

“คุณอาจจะสับสนและคิดว่าคุณเป็นอะไรที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณ แต่ว่าพวกเรายังคงถ่อมตนพอที่จะทำมันต่อเนื่องและยึดตำแหน่งด้านบนนี้ หลังจากนักเตะเหล่านี้เคยมาอยู่จุดนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

“ลิเวอร์พูล” เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ผมเคยพบมาตลอด 12-13 ปีในฐานะกุนซือ พวกเขายอดเยี่ยมมากตลอดหลายปีที่ผ่านมามา การต่อสู้กับพวกเขาและแข่งขันเพื่อถ้วยรางวัลกับตำแหน่ง มันคือการประสบความสำเร็จสูงสุดที่ผมเคยทำในเส้นอาชีพของผม”

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางตัวเก่งของ เชลซี ยอมรับว่าทีมของพวกเขาไม่ทันตั้งตัวในประเด็นการขายสโมสรของ โรมัน อับราโมวิช แต่รับรองว่าเขาจะทำหน้าที่ของตัวเองในสนามต่อไป

อับราโมวิช เจ้าของทีม “สิงห์บลูส์” พึ่งแถลงตัดสินใจพร้อมขายทีมหลังถูกบีบคั้นอย่างหนักจากเรื่องความข้องเกี่ยวที่ใกล้ชิดกับ วลาดิร์ ปูติน ผู้นำประเทศรัสเซีย ที่กำลังก่อสงครามในประเทศยูเครน

ในขณะที่สโมสรของพวกเขากำลังอยู่ในเส้นทางการแข่งขันอีก 3 รายการสำคัญ และมีโปรแกรมจะได้เจอกับ เบิร์นลีย์ ในเกมลีกวันเสาร์นี้ กองกลางคนสำคัญของทีมอย่าง ก็องเต้ ก็พูดถึงเรื่องนี้ว่า

“เราไม่ทันได้ตั้งตัวเลย มันเกิดขึ้นเร็วมาก” ก็องเต้ กล่าวกับ สกาย รีพอร์ต

“สิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้คือการเล่นฟุตบอลให้ดีเยี่ยมที่สุดเหมือนกับที่เราทำกันมาตลอด เพราะว่าเราไม่สามารถคอนโทรลเรื่องพวกนี้ มันมีเพียงแค่เรื่องเดียวที่เราสามารถคอนโทรลได้และอยากจะทำให้ดี”

“เรายังอยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการจบท็อปโฟร์ เราจะโฟกัสสุดกำลังไปทีละเกมและคว้าท็อปโฟร์มาให้ได้”

“มันไม่ได้ง่ายเนื่องจากว่าเราจะต้องชนะอีกหลายนัดแต่เราก็ซ้อมกันอย่างมากและหวังว่าจะทำให้ได้ เริ่มตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้เลย”

“ตั้งแต่ผมย้ายมาที่นี่ผมมีซีซั่นที่สุดยอดกับทีมมายาวนานทั้งเพื่อนร่วมทีม, กุนซือ รวมทั้งแฟนบอล ผมหวังว่าเราจะเป็นแบบนี้ต่อไป เดินหน้าคว้าชัยชนะต่อไป นั่นคืออนาคตที่ผมเห็น”

ค็อชออฟไซต์ เว็บข่าวซุบซิบตลาดนักบอล ปูดข่าวว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ตั้งค่าตัวของ จาร์ร็อด โบเว่น แนวรุกฟอร์มร้อนเอาไว้ที่ 75 ล้านปอนด์ ท่ามกลางความสนใจจากหงส์แดง

“ลิเวอร์พูล” กลายเป็นข่าวว่ากำลังพยายามมองหาแนวรุกรายใหม่มาเพิ่มออปชั่นในแดนหน้า ก่อนควักเงินในกระเป๋า 60 ล้านปอนด์ ดึง หลุยส์ ดิอาซ มาจาก เอฟซี ปอร์โต ตอนปีใหม่

โบเว่น กำลังทำผลงานสะดุดตาให้กับ “ขุนค้อน” ในช่วงฤดูกาลนี้ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในแผนการที่เยอร์เก้น คล็อปป์ แสดงความสนใจเช่นกัน

ฤดูกาลนี้ สตาร์วัย 25 ปี ลงสู่สนามไปทั้งสิ้น 35 นัด รวมทุกรายการ และทำไปแล้ว 12 ประตูด้วยกัน อย่างยอดเยี่ยม

แม้ตัวเลขจำนวน 75 ล้านปอนด์อาจค่อนข้างสูง แต่ว่าบอร์ดบริหาร “ลิเวอร์พูล” เคยชี้ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาพร้อมจ่ายถ้าเกิดสามารถยกระดับทีมได้

แน่นอนว่าทีมจากลอนดอน สเตเดี้ยม ก็ไม่ได้อยากที่จะขายเพชรเม็ดงามนี้ออกไป และจะพยายามที่จะยื้อเขาไว้จนสุดความสามารถ

อันโตนิโอ คอนเต้ นายใหญ่ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ให้เครดิตกับ มิดเดิลสโบรห์ คู่ปรับว่าเหมาะเป็นผู้ผ่านเข้ารอบ รวมทั้งกระตุ้นให้ทีมโชว์ฟอร์มให้ดีกว่านี้ในช่วงซีซั่นที่เหลือ

ทัพ “ไก่เดือยทอง” ของที่ปรึกษาชาวอิตาเลี่ยน พึ่งจะอกหักเสียท่าตกรอบไปอีกรายการหลังบุกไปแพ้ให้กับ “สิงห์แดง” ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 5 ทำให้มีโอกาสที่ทีมของพวกเขาจะมือเปล่าไปอีกปี

“แน่นอนว่าผลของการแข่งขันมันไม่ค่อยดีเลยและก็ทำให้พวกเราหงุดหงิดกันมาก มันน่าเสียดายเพราะเกมแบบนี้คุณจะต้องประเดิมแล้วก็เชือดคู่แข่งในทันที” คอนเต้ กล่าวหลังจบเกม

“ถ้าเกิดคุณให้ความมุ่งหวังกับพวกเขา พวกเขาก็จะปรับปรุงขึ้นเรื่อยๆระหว่างเกม ต่อจากนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้”

“ก่อนอื่นผมต้องบอกว่า มิดเดิลสโบรห์ เล่นได้ดีมาก พวกเขาเหมาะสมที่ได้รับความเคารพนับถือแล้วก็คำยินดีสำหรับชัยชนะ

“พวกเราต้องตอบสนองกับฟอร์มการเล่นของเราวันนี้ ในเกมแบบนี้ที่ได้เล่นนอกบ้าน คุณจะต้องปิดเกมให้เร็ว พวกเราควรทำได้ดีกว่านี้แล้วก็ท้ายที่สุดแล้ว มิดเดิลสโบรห์ ก็เหมาะสมจะผ่านเข้ารอบต่อไป”

“ผมจะต้องย้ำอีกรอบว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ เราจะต้องเพียรพยายามเลี่ยงความไม่สม่ำเสมออย่างนี้ ซึ่งมีอยู่แนวทางเดียวคือแก้ปัญหาแล้วก็ทำความเข้าใจจากความพ่ายแพ้ พวกเราจะต้องฝ่าและจะต้องพยายามทำให้ดีเยี่ยมที่สุดในซีซั่นนี้”

“พวกเราจะต้องทำให้เยี่ยมที่สุดตลอดซีซั่นที่เหลือ หลังจากนั้นก็มาดูตำแหน่งของเราและประเมินซีซั่นของเรา มันยังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องพวกนี้”